บันทึกการเรียนครั้งที่ 5
วันที่ 5 เดือน กันยายน ปี 2559 เวลาเรียน 14:30 - 17:30น.
ความรู้ที่ได้รับ
บทที่ 4 โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองในและต่างประเทศ
ปัจจุบันสถานศึกษาทุกระดับทั่งโลก ต่างให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของพ่อแม่
ผู้ปกครองในการจัดการศึกษา
การให้ความรู้กับผู้ปกครองจึงเป็นภารกิจที่สถานได้ดำเนินงานในรูปแบบที่แตกต่างไปในแต่ละประเทศ
โดยที่แต่ละประเทศได้ดำเนินยุทธศาสตร์การให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง โดยยึดหลักความร่วมมือระหว่างบ้าน
โรงเรียน ชุมชนและสังคมจากภาครัฐและภาคเอกชน
เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาเด็กปฐมวัยให้ไปในทิศทางเดียวกัน
โครงการ การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในประเทศไทย
1. โครงการ แม่สอนลูก
- ดำเนินการโดยกรมการฝึกหัดครู กระทรวงศึกษาธิการ
- จัดสำหรับเด็กที่ด้อยโอกาส โดยให้มารดาเป็นผู้สอนเองที่บ้าน
- ใช้วิธีการแนะนำให้รู้จักใช้ทักษะ
รู้จักคิดและเรียนรู้มโนทัศน์ด้านต่างๆ
- ใช้รูปแบบการทดองสอนแม่เพื่อสอนลูกที่บ้าน
โดยอาศัยรูปแบบโครงการการเยี่ยมบ้านของประเทศอิสราเอล
- มารดามีความพอใจในกิจกรรม
มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆเพิ่มขึ้น
2. โครงการ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กไทย
ดำเนินงานโดยสำนักสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต
เป็นโครงการที่มุ่งเร่งพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับ
เด็กและเยาวชนไทย
โดยผลักดันให้ครอบครัวมีส่วนร่วมที่สำคัญ
ด้วยการจัดทำชุดองค์ความรู้และ
เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กและเยาวชนไทย
เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนำไป
ปฏิบัติใช้ได้จริง
3. โครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความเข็มแข็งของครอบครัว
“บ้านล้อมรัก”
ดำเนินการโดยสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามยา เสพติด
ภายใต้คำขวัญ “พลัง
ครอบครัวไทย ชนะภัยยาเสพติด”
เพื่อสร้างความเข้าใจบทบาทของพ่อแม่ ผู้ปกครองในการดูแลเอาใจใส่
บุตรหลาน
เพื่อให้ปลอดภัยและห่างไกลจากยาเสพติด
4. โครงการหนังสือเล่มแรก (Bookstart Thailand)
โครงการหนังสือเล่มแรก เริ่มต้นขึ้นในปี 2546 โดยการริเริ่มของมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก
ซึ่งในปีนั้นรัฐบาล
โดยกระทรวงศึกษาธิการประกาศให้เป็นปีแห่งการอ่าน
ส่วนภาคเอกชนโดยสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้
จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยได้เริ่มดำเนินโครงการ
“รวมพลัง รักการอ่า” ขึ้นในปีนี้เช่นเดียวกัน
โดยมีเป้าหมายที่จะให้พ่อแม่ลูกมีความสุขร่วมกันในโลกของหนังสือ
สร้างพื้นฐานการอ่านและสาน
สัมพันธ์ในครอบครัว
ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยนิสัยรักการอ่านและประสานความร่วมมือ
ระหว่างองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนรวมทั้งองค์กรท้องถิ่นในการรณรงค์โครงการ
โดยการจัดทำถุงบุ๊ค
สตาร์ท (book
start) ติดตามประเมินผลครอบครัวในโครงการ
5. โครงการพัฒนาเด็กโดยครอบครัว
เป็นการดำเนินงานร่วมกันของกรมการพัฒนาชุมชน กรมการศึกษานอกโรงเรียน กรมอนามัย
สำนักงานปรัดกระทรวงสาธารณสุข และอีกหลายหน่วยงาน วัตถุประสงค์เพื่อ
พัฒนาและเพิ่มพูนความ
รู้ให้พ่อแม่ สมาชิกในครอบครัว
เยาวชนในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมเลี้ยงดูเด็กให้เจริญเติบโต
มี
พัฒนาการตามวัยต่อเนื่องสอดคล้องกับวิถีชีวิตครอบครัวและสังคมของเด็ก
6. โครงการพัฒนาเด็กโดยครอบครัว
ดำเนินงานโดยกองสูตินารีเวชกรรม พร.พระมงกุฎเกล้า
ได้เปิดบริการให้เตรียมความพร้อมแก่คู่สมรสที่
กำลังเตรียมใช้ชีวิตคู่ ให้มีความรู้
ความเข้าใจในเรื่องต่างๆ ของชีวิตสมรส เพื่อความสุขราบรื่น
โดยใช้
ชื่อสถานบริการนี้ว่า “คลินิกให้คำปรึกษาก่อนสมรส” ดำเนินงานโดย พ.อ.
นพ.วิวัฒน์ ศุภดิษฐ์ มี
วัตถุประสงค์เพื่อต้องการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในสังคมไทย
โดยจะให้การรักษาดูแลสุขภาพ
ร่างกายให้แก่คู่สมรสระหว่างตั้งครรภ์ ทำคลอด
และหลังคลอดจะให้คำแนะนำวิธีการเลี้ยงดูและการ
ดูแลทารกด้วยนมแม่
โครงการ การให้ความรู้ผู้ปกครองในต่างประเทศ
1. โครงการ การให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในประเทศอิสราเอล
ประเทศอิสราเอลถือเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาค่อนข้างสูง
เพราะถือว่าการศึกษาคือ
การพัฒนามนุษย์ให้มีคุณภาพ ดังนั้น
จึงมีการจัดการศึกษาให้แก่เด็กอายุ 3-4 ปี โดยรัฐบาลเป็นผู้
สนับสนุนงบประมาณ
งานการศึกษาเด็กโดยพ่อแม่ผู้ปกครองถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการจัดการ
ศึกษาของอิสราเอลตั้งแต่ระดับอนุบาล
การทำงานระหว่างบ้านกับโรงเรียนและชุมชนจึงพบได้ในทุก
โรงเรียน
ซึ่งถือเป็นงานปกติที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามหน้าที่
2. โครงการศูนย์ส่งเสริมประสบการณ์เด็กปฐมวัย
ที่เรียกว่า ALEH (Early Childhood Enrichment Center)
ศูนย์ ALEH จะมีกิจกรรมช่วยพ่อแม่ผู้ปกครอง
ดังนี้
-
สอนแม่ที่อายุยังน้อยให้รู้จักใช่สื่อ-อุปกรณ์ (ของเล่น) เกมการเล่นเพื่อพัฒนาเด็ก
และถ้าเด็กมีปัญหาทางด้านพัฒนาการด้านร่างกายและสติปัญญาก็จะเสนอแนะให้รู้จักกับนักสังคมสงเคราะห์เพื่อรับฟังคำแนะนำ
-
จัดกิจกรรมสอนให้แม่ทำของเล่นให้ลูกหรือคิดสร้างเกมการเล่นกับลูก
- ประสานงานกับคลินิกครอบครัวแม่และเด็ก
จัดกิจกรรมเสนอแนะให้แม่ที่ไม่เคยมีเวลาว่างไปร่วมในศูนย์ ALEH เพื่อจัดกิจกรรมในข้อขั้นต้น
3. โครงการเสนอแนะให้แม่สอนลูก เลี้ยงลูกอย่างไรให้ถูกวิธี
อาจเรียกโครงการนี้ว่าเป็นการจัดการศึกษานอกระบบแก่พ่อแม่ก็ว่าได้
โดยโครงการนี้ชื่อ HATAF
โปรแกรม
เป็นโครงการที่ร่วมมือกันทำระหว่างมหาวิทยาลัยเยรูซาเล็มกับกระทรวงศึกษาธิการ
เป็น
โครงการที่จัดรูปแบบการสอนพ่อแม่ที่มีลูกอายุ 1-3ปี
ซึ่งกิจกรรมที่สอนพ่อแม่ผู้ปกครองก็คือ ให้พ่อแม่
ได้พัฒนาทักษะการพูด-คุยกับลูก
ได้เรียนรู้พัฒนาการทั้งทางด้านสติปัญญา อารมณ์และสังคม
สอนให้
พ่อแม่จัดบรรยากาศสิ่งแวดล้อมให้ลูกอย่างง่ายๆ
รู้จักใช้วัวดุในครัวเรือนและท้องถิ่นเป็นสื่อ –อุปกรณ์
และสอนให้รู้จักจัดกิจกรรมการเล่นกับลูกที่มีอายุ 1-3 ปี
4. โครงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับผู้ปกครองและเด็ก
จัดขึ้นสำหรับเด็ก 4-6 ปี พร้อมด้วยพ่อแม่
ผู้ปกครอง วัตถุประสงค์เพื่อ
ส่งเสริมให้พ่อแม่ผู้ปกครองใช้
เวลาว่างร่วมกับลูกในการสนับสนุนความคิดสร้างสรรค์
และสนุกกับกิจกรรม-ผลงานที่ลูกสร้างขึ้น โดย
มีวิทยากรเป็นครูจากเนสเซอรี่ หรือ รร.อนุบาลหรือผู้เชี่ยวชาญทางศิลปะ-ดนตรี
เกมการศึกษา
นาฏศิลป์ ร้องรำทำเพลง ฯลฯ
โดยก่อนเริ่มกิจกรรมจะมีกรพูดคุยกับพ่อแม่ถึงกิจกรรมที่จะเล่นกับเด็ก
และเมื่อจบกิจกรรมก็จะมีการพูดคุยสรุปและประเมินผลที่ได้ในวันนั้นๆ ระหว่างพ่อแม่
ผู้ปกครอง
และผู้จัด
5.โครงการให้ความรู้ผู้ปกครองในประเทศสหรัฐอเมริกา
- เพื่อให้เข้าใจพัฒนาการของเด็กแต่ละวัย รวมทั้งลักษณะของชีวิตครอบครัว
-
ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะและพฤติกรรมของเด็ก
-
ได้อภิปรายเกี่ยวกับขนบธรรมเนียมและประเพณีที่มีต่อชีวิตครอบครัว
-
เพื่อให้เข้าใจลักษณะและจุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษา
6. โครงการศูนย์ข้อมูลพ่อแม่
มีการจัดตั้ง ศูนย์ข้อมูลพ่อแม่ ขึ้นในทุกรัฐ
โดยการดำเนินงานนั้นให้ผ่านไปยังองค์กรเอกช
สาธารณประโยชน์ (NGO) โดยให้การอบรมความรู้และข้อมูลข่าวสารแก่ผู้ปกครอง
ภายใต้คำนิยาม
“การศึกษาของพ่อแม่ (Parent Education) “โครงการพ่อแม่ในฐานะครู” (Parents as Teachers
Program)
และ “โครงการสอนเด็กเล็กในบ้าน”
(Home
Instruction for Preschool Youngsters Program)
-
ให้เข้าใจเรื่องความต้องการทางการศึกษาของเด็ก
- ให้สนับสนุนในการช่วยเหลือในการเรียนของเด็กจนประสบความสำเร็จ
- สามารถที่จะติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างครู
ผู้บริหารและนักเรียน
-
ให้มีส่วนร่วมในการออกแบบรับความช่วยเหลือสำหรับนักเรียนที่ไม่ได้มาโรงเรียน เช่น
การให้บริกา
เอกสารในเรื่องต่างๆ
7. โครงการ เฮดสตาร์ท (Head
Start)
เป็นโครงการระดับชาติที่ให้บริการด้านพัฒนาการแก่เด็กอายุ 3-5 ปี ที่พ่อแม่มีรายได้น้อย
และบริการ
ด้านสังคมแก่ครอบครัวของเด็กเหล่านั้น
การบริการเฉพาะสำหรับเด็กเน้นเรื่องการศึกษา พัฒนาการ
ด้านอารมณ์ สังคม สุขภาพกาย
จิตใจและโภชนาการ พื้นฐานสำคัญของโครงการนี้คือ การมีส่วนร่วม
ของพ่อแม่และชุมชน
8. โครงการ โฮมสตาร์ท (Home
Start Program)
เป็นการนำพ่อแม่เข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษาของเด็กเล็กซึ่งอยู่ภายใต้โครงการใหญ่
คือ เฮดสตาร์ท
เป้าหมายคือ
เพื่อสร้างความสำนึกให้ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของตนที่มีต่อเด็ก
และชี้ให้ผู้รับผิดชอบ
ในการจัดการศึกษาให้แก่เด็ก
เห็นคุณค่าของการมีส่วนร่วมของมารดาที่มีผลต่อการเรียนของเด็กด้อย
โอกาส
โดยช่วยเหลือสนับสนุนให้ครอบครัวมีความสามารถดูแลเด็กอย่างถูกต้องและมีสมรรถภาพ
9. โครงการสมาร์ท สตาร์ท (Smart
Start)
ก่อตั้งโดยนายจิม ฮั้น
ผู้ว่าการมลรัฐแคโรไลนาเหนือ ในปี พ.ศ. 2536 ได้จัดให้มี
คณะทำงานศึกษาสาระปัญหาเด็กเล็ก
โดยเฉพาะในด้านการอบรมเลี้ยงดูและการศึกษาของเด็กเล็ก
ปัจจุบันกระทรวงทรัพยากรมนุษย์เป็นผู้ดำเนินโครงการ
โครงการนี้สร้างสรรค์ขึ้นจากความคิดริเริ่มด้าน
เด็กเล็กจากแรงผลักดันของท้องถิ่น
ชุมชนรวมตัวกันเข้าเรียกร้องความต้องการให้เด็กเล็ก
โดยมีเป้า
หมายที่เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ให้มีสุขภาพและความพร้อมที่จะเรียนให้สำเร็จ
10. โครงการ Brooklyne
Early Childhood
เป็นโครงการที่ฝึกให้ผู้ปกครองเป็นครูในการสอนลูก ดำเนินการโดย Brooklyne Public School ซึ่งได้รับ
ความร่วมมือจากศูนย์การแพทย์ในโรงพยาบาลเด็ก
ในการจัดการศึกษาให้แก่ผู้ปกครอง
โดยการจัดให้
มีการตรวจสุขภาพเด็กเบื้องต้นเพื่อให้สามารถรักษาดูแลความเจ็บป่วย
ความพิการหรือข้อบกพร่อง
ต่างๆ ในระยะต้นได้
นอกจากนี้ยังให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกวิธี
และวิธีการ
จัดการศึกษาให้แก่เด็กอายุ 2 ขวบขึ้นไป ด้วยการฝึกให้เด็กเล่นรวมกลุ่ม
11. โครงการให้ความรู้ผู้ปกครองในประเทศนิวซีแลนด์
ประเทศนิวซีแลนด์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาปฐมวัย
โดยการศึกษาในระดับนี้
จะให้โอกาสผู้ปกครองใช้สิทธิในฐานะหุ้นส่วนในการจัดการศึกษาปฐมวัย
และมีส่วนร่วมในการตัดสิน
ใจเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรหลาน
12. โครงการ เพลย์เซ็นเตอร์
เป็นโครงการที่กล่าวได้ว่า พ่อแม่ไปมีส่วนร่วมด้วยทั้งหมด
นับตั้งแต่การจัดตั้ง การบริหาร การดำเนิน
งาน
โดยมีการควบคุมมาตรฐานที่รัฐบาลรับรองและมาสมารถจัดบริการให้แก่เด็กเล็กได้ประมาณหนึ่ง
ในสามของเด็กปฐมวัยทั้งหมดของประเทศ
ปรัชญาในการทำงานคือ
“พ่อแม่คือครูคนแรก
และเป็นครูที่ดีที่สุดของลูก”
13. โครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการจัดการศึกษาของโรงเรียน
เป็นโครงการที่โรงเรียนจัดนิทรรศการสำหรับผู้ปกครอง
เพื่ออธิบายถึงปรัชญาที่เป็นรากฐานของการ
ศึกษาปฐมวัย
และนโยบายเรื่องประโยชน์ของการศึกษาที่มีต่อผู้ปกครอง
มีการสำรวจความรู้ของผู้
ปกครองเกี่ยวกับการศึกษาปฐมวัยและจัดเตรียมแฟ้มข้อมูลข่าวสารและนิทรรศการต่างๆ
เพื่อให้ความรู้
เพิ่มเติมแก่ผู้ปกครองตลอดจนการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ในการวางแผน
จัดทำ
หลักสูตร การพัฒนาทักษะ การประเมินผลการเรียน
และการประเมินผลการจัดการศึกษากับผู้ปกครอง
14. โครงการ “พ่อแม่คือครูคนแรก” (Parents
as First Teachers)
เป็นโครงการที่ให้ความช่วยเหลือแนะนำและให้ข้อมูลแก่พ่อแม่ให้มีความรู้ความเข้าเข้าใจพัฒนาการ
ของเด็กก่อนเกิดและตั้งแต่เกิดถึง
3 ขวบ
รัฐบาลส่งเสริมให้พ่อแม่ทุกคนเข้าร่วมโครงการได้ตามความ
สมัครใจและไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
ทั้งสิ้น
โครงการนี้จะคัดเลือกพ่อแม่ที่ผ่านการฝึกอบรมมีความรู้ความ
เข้าใจอย่างดีมาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่เรียกว่า
“พ่อแม่นักการศึกษา”
15. โครงการให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองประเทศออสเตรเลีย
มีรูปแบบในการให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในลักษณะที่เรียกว่า (Early Childhood
Center) หรือ
ศูนย์
สุขภาพเด็ก (Baby
Health Center) เป็นศูนย์ที่ให้บริการคำแนะนำฟรีสำหรับพ่อแม่และทารกจนถึง 5 ปี
เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์จะเป็นพยาบาลทั่วไป
จะทำการนัดหมายให้พ่อแม่พาลูกไปชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง
ดูพัฒนาการของลูก
ไปเยี่ยมบ้าน โดยเฉพาะทารกที่มีปัญหา เช่น
ตัวเหลืองรวมทั้งไปสอนการดูแลการ
อาบน้ำเด็กทารกจนกระทั่งแม่แข็งแรงดี
มีการจดบันทึกข้อมูลเด็กลงในสมุดสีฟ้า (blue book) ซึ่งเด็กทุก
คนต้องมีสมุดเล่มนี้
สำคัญเหมือนบัตรประชาชน
นอกจากนี้ก็จะให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพกาย
และใจ
โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งมีลูกคนแรก
16. โครงการ บุ๊คสตาร์ทในประเทศอังกฤษ (Bookstart UK)
โครงการ บุ๊คสตาร์ท หรือเรียกว่า “หนังสือเล่มแรก” ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ
เมื่อปี พ.ศ.
2535
โดย นางเวนดี้ คูลลิ่ง ภายใต้ บุ๊คทรัสต์
ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่มีจุดมุ่งหมายในการนำหนังสือสู่
คน นำคนสู่หนังสือ นับเป็นโครงการแรกของโลกที่ว่าด้วยหนังสือสำหรับเด็กทารก
โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อให้เด็กทารกในอังกฤษทุกคนได้รับโอกาสและสนับสนุนให้พัฒนาความรู้สึกรักหนังสือและการอ่าน
ไปตลอดชีวิต
ด้วยการจัดสรรให้เด็กทารกทุกคนได้รับ “ถุงบุ๊คสตาร์ท”
17. โครงการ บุ๊คสตาร์ทในประเทศญี่ปุ่น
(Bookstart Japan)
เมื่อปี พ.ศ. 2543
ญี่ปุ่นประกาศให้เป็น
“ปีแห่งการอ่านของเด็ก” และได้มีการนำโครงการบุ๊คสตาร์ทของ
ประเทศอังกฤษเข้ามาเผยแพร่ในญี่ปุ่น
โดยมีศูนย์สนับสนุนบุ๊คสตาร์ทเป็นเจ้าของโครงการ ด้วยหลัก
การและเหตุผลที่ว่า
ภาษามีความสำคัญต่อการหล่อเลี้ยงจิตใจเด็ก
เด็กเล็กต้องการอ้อมกอดอันอบอุ่น
และเสียงพูดคุยอย่างอ่อนโยน โครงการบุ๊คสตาร์ทสนับสนุนสัมผัสอันอบอุ่นโดยมี
“หนังสือภาพ” เป็น
สื่อกลาง โดยทดลองที่เขตสุงินามิ ในกรุงโตเกียวเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2544 ได้รับความร่วมมือจาก
ศูนย์อนามัย
ห้องสมุดและหน่วยงานสนับสนุนการเลี้ยงดูเด็กสามองค์กรร่วมกันแจกถุงบุ๊คสตาร์ทแก่แม่
ที่พาลูกมาตรวจสุขภาพในช่วงอายุ
4 เดือน โดยมีเป้าหมาย 200 ครอบครัว
และก็ได้มีการแพร่ขยายไป
อย่างรวดเร็วในประเทศญี่ปุ่น
สรุป
จากโครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองทั้งในและต่างประเทศที่ได้ยกตัวอย่างมานั้น
จะเห็นได้ว่าทุก
ประเทศให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาเด็กตั้งแต่เด็กปฐมวัย
ซึ่งมีความสำคัญยิ่ง เป็นวัยแห่งการ
เริ่มต้นที่ดีของชีวิต
พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องเป็นผู้ที่มีความพร้อมและมีคุณภาพในการดูแลเด็ก
เพื่อให้
เด็กได้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ
คำถามท้ายบท
1. ในการดำเนินโครงการให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งในและต่างประเทศมีเป้าหมายร่วมกันอย่างไร
ตอบ เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาเด็กปฐมวัยให้ไปในทิศทางเดียวกัน
2. นักศึกษามีแนวคิดอย่างไรที่จะสนับสนุนให้โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
จงอธิบาย
ตอบ ผู้จัดทำโครงการควรคอยดูแลและส่งเสริมหรือสร้างสัมพันธ์กับผู้ปกครองของเด็กอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ร่วมโครงการเข้าใจจุดประสงค์และความสำคัญของโครงการและปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของโครงการจนสำเร็จ
3. ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นผู้ที่ให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยในอนาคต
จงยกตัวอย่างขององค์ความรู้หรือเรื่องที่ต้องการจะถ่ายทอดให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อใช้ในการเลี้ยงดูเด็ก
มา 5 เรื่องพร้อมอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ
ตอบ 1. การดูแลเลี้ยงดูเด็กของครอบครัว ภาระหน้าที่พื้นฐานของผู้ปกครองที่จะต้องจัดให้เด็ก เช่น การจัดหาที่อยู่อาศัย การดูแลสุขภาพ อนามัย อาหารที่มีคุณภาพ และความปลอดภัยให้แก่เด็ก
2. การผลิตของเล่นสำหรับเด็ก เป็นการใช้เวลาในการเล่นร่วมกับเด็กเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยังเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ด้วยการลงมือทำด้วยตนเอง เช่น พับเครื่องบินกระดาษกับลูกแล้วเล่นด้วยกัน
3. อาหารสำหรับเด็ก ทำอาหารที่เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็กเพื่อให้ตัวเด็กได้รับสารอาหารที่ครบทั้ง 5 หมู่ เช่น การทำอาหารให้เด็ก 6 เดือนรับประทาน อาหารต้องบดให้ละเอียด
4. รักการอ่าน พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถใช้เวลาอ่านหนังสือให้เด็กฟังตั้งแต่เด็กเล็กๆ และให้เด็กได้จับหนังสือ ลองเปิดเอง เพื่อส่งเสริมให้เด็กได้เรียนรู้ในเรื่องของภาษา และรักในการอ่านหนังสือเมื่อเด็กเติบโตมา
5. ความต้องการของเด็ก เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้เข้าใจถึงความต้องการของเด็กในแต่ละช่วงวัยและสามารถตอบสนองความต้องการของเด็กในช่วงวัยต่างได้อย่างถูกต้องตามพัฒนาการของเด็ก เช่น เมื่อเด็กถึงช่วงวัยที่จะเริ่มหัดเดิน พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถเข้าใจเด็กและส่งเสริมให้เด็กเดินได้คล่องแคล่วอย่างรวดเร็ว
4. การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมเด็กหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อผู้ปกครองมีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง จะส่งผลให้เด็กเป็นเด็กที่มีพัฒนาการที่ดี มีพฤติกรรมที่ดีและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้ดี และเป็นทรัพยากรที่ดีของประเทศชาติ
5. นักศึกษาจะมีวิธีในการติดตามผลการให้ความรู้ผู้ปกครองอย่างไร
จงอธิบาย
ตอบ 1. ทำตามแผนการและวัตถุประสงค์ของโครงการ
2. ไม่ทิ้งช่วงระยะห่างเกินไป
3. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมโครงการ
การนำไปประยุกต์ใช้
- จัดทำโครงการให้ความรู้ผู้ปกครองเพื่อร่วมกันช่วยเหลือเด็ก ให้เด็กมีคุณภาพ
ผลการประเมิน
การประเมินตนเอง
- เข้าเรียนตรงเวลา
- ตั้งใจเรียน และเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆในชั้นเรียน
การประเมินเพื่อน
- เพื่อนๆส่วนมากเข้าเรียนตรงเวลา นั่งเรียบร้อยตั้งใจฟังและโต้ตอบคำถามตั้งๆในชั้นเรียน
การประเมินอาจารย์
- อาจารย์เข้าสอนตรงเวลา
- อาจารย์อธิบายเนื้อหาที่เรียนได้อย่างละเอียดพร้อมมีการยกตัวอย่างประกอบทำให้เข้าใจในเนื้อหาวิชาที่เรียนได้มากขึ้น